Power Flagship ของกลุ่ม ปตท. อย่างแท้จริง โดยใช้ความ ช านาญทางธุรกิจไฟฟ้า อีกท้ังยังสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจผลิตไฟฟ้าและสาธารณูปโภคท่ีใช้เชื้อเพลิงแตกต่างไปจากเดิม เมื่อโครงการก่อสร้างแล้วเสร็จจะสร้างความ
พลังงาน และการขยายฐาน ลูกค้าและส่ง เส ริมการ เ ติบโต ร่วมกบั ปตท. • ภายหลังก ารค วบรวม กิ จก า ร บริษทัฯ มีก าลงัการผลิตเพ่ิมข้ึนอีก 2,771 เมกะวตัต ์รวมก าลงัการผลิต ทั้งส้ิน 4,986 เมกะวตัต์ • นอกจากน้ี
รดิตสะทอ้นถึงสถานะของบริษทัท่ีเป็นผูผ้ลิตไฟฟ้าเอกชนท่ีใหญ่เป็นอนัดบัสองของประเทศ รวมถึงการมีกระแสเงินสดท่ีคาดการณ์ได้จากการมีสัญญาซ้ือขายไฟฟ้าระยะยาวกบัการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และกลุ่ม ปตท
ท่ีเป็น New S-Curve เพ่ือรองรับการเปลี่ยนแปลงของการท าธุรกิจพลังงานและธุรกิจไฟฟ้าในอนาคต และเป็นผู้น าด้าน Energy Solution Provider ของกลุ่ม ปตท. ผ่านการ ด าเนินการพัฒนาธุรกิจใหม่ 3 ส่วน คือ 1. Battery
ยังไม่มีการกู้เงินใน ส่วนท่ีเป็นวงเงินกู้ระยะส้ันไม่เกิน 12 เดือน (Bridging Loan) จากสถาบันการเงิน และจากผู้ถือหุ้นใหญ่ของบริษัทฯ ได้แก่ บริษัท ปตท. จ ากัด (มหาชน) และ บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จ า
มติัเรียกประชุมสามญัผูถื้อหุ้น ประจ าปี 2563 โดยก าหนด วนัประชุมในวนัท่ี 4 มิถุนายน 2563 เวลา 14:00 น. ณ ห้องประชุมใหญ่ ชั้น 2 อาคาร 1 บริษทั ปตท. จ ากดั (มหาชน) ส านักงานใหญ่ เลขท่ี 555 ถนนวิภาวดีรังสิต
ปริมาณธุรกิจสนิเช่ือขยายตวัดีสอดคล้องกบัภาพรวมอตุสาหกรรมรถยนต์ในประเทศและรักษาคณุภาพสนิทรัพย์ได้ด ี ขณะเดียวกนั บริษัท แฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสกิรไทย จ ากดั มียอดสนิเช่ือขยายตวัสงูตอ่เนื่อง นอกจากนี
ทะเบียนช ำระแล้วเม่ือวนัท่ี 9 ตุลำคม 2562 คือ บริษทั ปตท. จ ำกดั (มหำชน) ถือหุ้นร้อยละ 22.81 บริษทั พีทีที โกลบอล เคมิคอล จ ำกดั (มหำชน) ถือหุน้ร้อยละ 22.73 บริษทั ไทยออยล์ จ ำกดั (มหำชน) ถือหุ้นร้อยละ
ปริมาณธุรกิจสินเช่ือขยายตวัดีสอดคล้องกบัภาพรวม อตุสาหกรรมรถยนต์ในประเทศและรักษาคณุภาพสินทรัพย์ได้ดี ขณะเดียวกัน บริษัท แฟคเตอรี แอนด์ อีควิปเมนท์ กสิกรไทย จ ากดั มียอดสนิเช่ือขยายตวัสงูกวา่เป้าหมายที่ตัง้