; วันที่ถาม : 05/10/63 วันที่ตอบ : 08/10/63 คำถาม : บลจ. A มีผู้ถือหุ้นรายใหญ่เป็นบริษัท B ในประเทศสิงคโปร์
(“บมจ. A”) ประสงค์จะครอบงำกิจการของบริษัทจดทะเบียน B (“บมจ. B”) ซึ่งมีการประกอบธุรกิจในลักษณะเดียวกัน และจะดำเนินการควบรวมกิจการกับ บมจ. B เกิดเป็นบริษัทใหม่ตามมาตรา 146 พระราช
/> กรณีที่ธนาคาร A จะทำธุรกรรมในลักษณะที่มีการโอนตราสารหนี้ให้แก่ธนาคาร B โดยธนาคาร B จะส่งมอบหลักประกันให้แก่ธนาคาร A เมื่อครบกำหนดเวลาที่กำหนดในสัญญา ธนาคาร B จะส่งตราสารหนี้พร้อมค่าธรรมเนียมให้แก่
หรือทางอ้อม เป็นจำนวนหรือรวมกันเกินกว่าร้อยละ 50 ของจำนวนหุ้นที่มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดของนิติบุคคลนั้น 1. บมจ. D ถือหุ้นใน บล. B ร้อยละ 50.96 และถือหุ้นในธนาคาร A ร้อยละ 20.11 ดังนี้ บล. B
> บลจ. A ทำหน้าที่สนับสนุนการขายและรับซื้อคืนหน่วยลงทุน (LBDU) ให้ บลจ. อื่นโดย บลจ. A ไม่มีกองทุนรวมภายใต้การจัดการของตน ต่อมา บลจ. A ได้ทำสัญญา กับ บล. B เรียกว่า “สัญญาแต่งตั้งผู้
และถูกถือหุ้นโดยธนาคาร B ดังนั้น ธนาคาร A จึงต้องคืนใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ข ในนามของกลุ่มดังกล่าวและขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจหลักทรัพย์แบบ ข ใหม่ ธนาคาร B ต้องดำเนินการคืนใบ
> คำถาม : กรณีที่ผู้ดูแลผลประโยชน์ของกองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์ คือ ธนาคาร A. มีการควบรวมกิจการกับนิติบุคคลอื่น คือ ธนาคาร B. โดยธนาคาร A. ขายหุ้นให้ธนาคาร B
(มหาชน) และบริษัทร่วมทุน (PTT GROUP) ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลขที่ 2/2548 ตั้งแต่วันที่ 26 กันยายน 2548 3. กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ประกันภัยไทยวิวัฒน์ ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ทะเบียนเลข
ละเอียดที่เกิดจากการเปลี่ยนชื่อของนิติบุคคลหรือบุคคลธรรมดา โดยยังคงเป็นบุคคลเดิม เช่น บลจ. A เปลี่ยนชื่อเป็น บลจ. B หรือ กองทุนรวม A เปลี่ยนชื่อเป็นกองทุนรวม B เป็นต้น 2. การแก้ไขชื่อและราย
outsource งานทะเบียนกองทุนสำรองเลี้ยงชีพมาจาก บลจ.B โดยไม่ได้ทำสัญญาโดยตรงกับกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ คำตอบ : บลจ.A ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมการทำหน้าที่เป็นนายทะเบียน