”) ให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขาย
”) ให้ผิดไปจากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขาย
จากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT
จากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT
จากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT
จากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT
จากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT
ปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT เพื่อ
จากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT
จากสภาพปกติของตลาด ซึ่งมีผลทำให้ราคาเพิ่มสูงขึ้นจาก 7.75 บาท เป็นราคา 15.60 บาท บุคคลข้างต้นได้แบ่งหน้าที่กันเพื่อสร้างราคาหุ้น กล่าวคือ นายน้ำ นายศุภวุฒิ นางสาวศนิ และนายยศ ทำหน้าที่ซื้อขายหุ้น KIAT