ก.ล.ต. มีนโยบายที่จะยกระดับการกำกับดูแลผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ผู้ประกอบธุรกิจ) ซึ่งเน้นการพัฒนาคุณภาพและความน่าเชื่อถือของผู้ประกอบธุรกิจด้านการคุ้มครองผู้ซื้อขายอย่างต่อเนื่อง โดยให้
ในช่วงที่ผ่านมามีภาคเอกชนสนใจเข้ามาขอรับใบอนุญาตเพื่อประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลจำนวนมาก ซึ่งเป็นธุรกิจที่อยู่ภายใต้สภาพแวดล้อมที่มีลักษณะเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่าง
ปัจจุบันมีผู้สนใจลงทุนในคริปโทเคอร์เรนซีเพิ่มมากขึ้น ซึ่งอาจลงทุนไม่สอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่สามารถยอมรับได้ ในขณะที่ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลเติบโตอย่างรวดเร็ว และผู้ซื้อขายยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับ
เกณฑ์การโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล ตามที่ ก.ล.ต. ได้เปิดรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับการแก้ไขหลักเกณฑ์การโฆษณาของผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ผู้ประกอบธุรกิจ) ไปเมื่อช่วงเดือนกุมภาพันธ์
เปลี่ยนมุมมองและความคิดเห็นเกี่ยวกับพัฒนาการสินทรัพย์ดิจิทัลร่วมกับผู้ประกอบการ ได้แก่ Sam Blatteis (Co-Founder & CEO, The MENA Catalysts), Ola Doudin (Co-Founder & CEO, BitOasis) และ Michelle Ritter
เกี่ยวกับการกระทำผิดในตลาดทุน อันเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่มีผลกระทบต่อสังคมและประชาชน รวมทั้งจะมีการพิจารณากำหนดความผิดตามกฎหมายว่าด้วยสินทรัพย์ดิจิทัลและสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพิ่มในบัญชีท้ายประกาศ กคพ
ธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว และปัจจุบันยังไม่มีการกำหนดให้ผู้ประกอบธุรกิจเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับคุณภาพการให้บริการของผู้ประกอบธุรกิจดังกล่าว ผู้ซื้อขายจึงไม่มีข้อมูลเพื่อประกอบการ
ตามที่ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (คณะกรรมการ ก.ล.ต.) ในการประชุมครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 มีมติอาศัยอำนาจตามมาตรา 35 แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล
และกำหนดห้ามผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลให้บริการหรือสนับสนุนการให้บริการ deposit taking & lending และในการประชุมครั้งที่ 16/2565 เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2565 และครั้งที่ 9/2566 เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม
คณะกรรมการ ก.ล.ต. ในการประชุมครั้งที่ 7/2565 เมื่อวันที่ 30 มิถุนายน 2565 อาศัยอำนาจตามมาตรา 35 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล พ.ศ. 2561 (พ.ร.ก. สินทรัพย์ดิจิทัลฯ) สั่งการ