าเนินงานสทุธิ (Cost to Income Ratio) อยู่ที่ร้อยละ 40.32 ปรับตวัเพิ่มขึน้จากไตรมาสก่อนเล็กน้อย แต่อยู่ในระดบัท่ี ดีกว่าเป้าหมาย ขณะที่สถานะเงินกองทุนมีความแข็งแกร่งเพียงพอส าหรับรองรับความเสี่ยงและ
Standard & Poor's หรือไดรับการพิจารณาโดยบริษัทจัดการท่ีใชเกณฑการจัดอันดับท่ี คลายคลึงกันรวมถึงหนวยงานตางประเทศ กองทุนหลักจะใชกระบวนการ การลงทุนท่ียั่งยืน (SRI Approach) เปนเกณฑคัดเลือกสำหรับผูออก
ซี สเตเบิ้ล อินคัม 40 ห้ามขายผู้ลงทุนรายย่อย MFC Stable Income Fund 40 Not for Retail Investors ผู้ลงทุนไม่สามารถขายคืนหน่วยลงทุนนี้ในช่วงเวลา 2 ปีได้ กองทุนนี้ลงทุนกระจุกตัวในผู้ออก ดังนั้น หากมี
งานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการด าเนินงานสทุธิ (Cost to Income Ratio) ในไตรมาสนีอ้ยู่ที่ระดบัร้อยละ 49.31 นอกจากนี ้ธนาคารมีผลขาดทนุด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึน้ (Expected Credit Loss) เพิ่มขึน้จ านวน 3,047
งานสทุธิ (Cost to Income Ratio) ได้ในระดบัที่ใกล้เคียงกบัเป้าหมายที่ร้อยละ 42.31 ขณะที่สถานะเงินกองทนุมีความ แข็งแกร่งเพียงพอส าหรับรองรับความเสี่ยงและอยู่ในระดับที่สงูกว่าเกณฑ์ที่ธนาคารแห่งประเทศไทยก า
เนินธุ รกิจของธนาคาร ส่งผลให้อตัราสว่น ค่าใช้จ่ายจากการด าเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการด าเนินงานสทุธิ (Cost to Income Ratio) อยู่ที่ระดบัร้อยละ 45.32 ทัง้นี ้ธนาคารมีการตัง้ส ารองค่าเผ่ือหนีส้งสยัจะสญู
3.47 เพิ่มขึน้จากไตรมาสก่อนเลก็น้อย แม้วา่อตัราสว่นคา่ใช้จ่ายจากการด าเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการด าเนินงานสทุธิ (Cost to Income Ratio) จะปรับตวัเพิ่มขึน้จากไตรมาสก่อนเล็กน้อยมาที่ร้อยละ 40.70 แต่อยู่
หนึง่เกิดจากคา่ใช้จ่ายทางการตลาด สง่ผลให้อตัราสว่นคา่ใช้จ่ายจากการด าเนินงานอื่น ๆ ตอ่รายได้จาก การด าเนินงานสทุธิ (Cost to Income Ratio) เพิ่มขึน้จากไตรมาสเดียวกนัของปีก่อนมาอยู่ที่ระดบัร้อยละ 41.20 แต่
แต่เป็นอตัราการเพิ่มที่น้อยกว่า รายได้รวมสทุธิ ท าให้อตัราสว่นค่าใช้จ่ายจากการด าเนินงานอื่น ๆ ต่อรายได้จากการด าเนินงานสทุธิ (Cost to Income Ratio) อยูท่ี่ระดบัร้อยละ 41.07 ปรับตวัลดลงจากไตรมาสก่อน และ
รายได้ดอกเบีย้สทุธิ (Net Interest Income Sensitivity) ในระยะ 12 เดือนข้างหน้า ภายใต้สมมติฐานการ เปลีย่นแปลงของอตัราดอกเบีย้ร้อยละ 1.00 ของรายการสนิทรัพย์และหนีส้นิทกุประเภทตามระยะเวลาการปรับ อตัราดอก